ReadyPlanet.com
dot dot
Japan Guide
dot
dot
dot

dot
dot
อยากไปไหนบอก!!!
dot
dot
ทัวร์ญี่ปุ่น (เลือกเส้นทาง)
dot
bulletPROMOTION >>เหมา15ท่าน
bulletHOKKAIDO >>ฮอกไกโด
bulletTOHOKU >>เซนได-นิกโก้
bulletKANTO >>โตเกียว-ฟูจิ
bulletTAKAYAMA >>ทาคายาม่า
bulletGOLDEN ROUTE >>โอซาก้า
bulletKYUSHU >>คิวชู
dot
เราบริการท่านอย่างไร?
dot
bulletให้ใครบริการท่านที่ญี่ปุ่น
bulletให้ท่านพักแบบไหนที่ญี่ปุ่น
bulletให้ท่านทานอะไรที่ญี่ปุ่น
bulletให้ท่านนั่งรถแบบไหนที่ญี่ปุ่น
bulletบริการก่อนเดินทาง
dot
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
dot
bulletวีซ่าญี่ปุ่น
bulletอัตราแลกเปลี่ยน
bulletหนังสือเดินทาง
bulletสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น
bulletศูนย์รับยื่นขอวีซ่า
bulletตรวจสอบสภาพอากาศ
bulletเตรียมตัวเดินทางไปญี่ปุ่น
bulletส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น JNTO
dot
แนะนำสถานที่เที่ยวน่าสนใจ
dot
bulletภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)
bulletภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
bulletภูมิภาคคันโต (Kanto)
bulletภูมิภาคชุบุ (Chubu)
bulletภูมิภาคคันไซ (Kansai)
bulletภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku)
bulletภูมิภาคชิโกกุ (Shikoku)
bulletภูมิภาคคิวชู (Kyushu)
bulletภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa)
dot
แบนเนอร์สำคัญ
dot




ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa)

 # รวมข้อมูลการท่องเที่ยว หมู่เกาะโอกินาว่า(Okinawa Islands) #

หมู่เกาะโอกินาว่า(Okinawa Islands) – เป็นจังหวัดที่อยู่ทางทิศใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยหมู่เกาะเล็กๆกว่า 12 เกาะ บริเวณครึ่งหนึ่งของเกาะนันเซ โชโตะ(Nansei Shoto) ห่างจากเกาะคิวชูไปกว่า 1,000 กิโลเมตรไปทางไต้หวัน จังหวัดโอกินาว่าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเกาะใหญ่ๆ ได้แก่ หมู่เกาะโอกินาว่า(Okinawa Shoto) รอบๆเกาะโอกินาว่า(Okinawa Honto) หมู่เกาะมิยาโกะ(Miyako Tetto)รอบๆเกาะมิยาโกะ และหมู่เกาะยาเอยาม่า(Yaeyama Retto) รอบๆเกาะอิชิงากิ(Ishigaki Island)

 

คฤหาสน์นาคามูระ(Nakamura Residence) เป็นบ้านสไตล์ดั้งเดิมของโอกินาว่าตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 อดีตเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวนาคามูระ ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของทางการญี่ปุ่น และเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมลักษณะพิเศษของคฤหาสน์ คือ หลังคากระเบื้องสีแดง รูปปั้นชิซะ(สิงโตที่เชื่อกันว่ามีไว้ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย) กำแพงหินสูง และต้นไม้สูง เพื่อป้องกันภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่น


ซากปราสาทนาคางุซูกุ(Nakagusuku Castle Ruins) เป็นหนึ่งในปราสาทที่สร้างขึ้นทั่วเกาะโอกินาว่าในช่วงราชอาณาจักรริวกิว ก่อนจะกลายเป็นจังหวัดโอกินาว่าในปี 1879 ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังของปราสาทที่ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นอ่าวนาคางุซูกุที่งดงามอีกด้วย ปราสาทแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่งุซูกุ(Gusuku sites) ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาณาจักรริวกิวในสมัยโบราณ และได้รับการบันทึกให้อยู่ใน UNESCO World Heritage Siteds ประจำปี 2000


สวนชิคินาเอน(Shikinaen Garden) สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 18 เป็นที่พักอาศัยแห่งที่ 2 ของกษัตริย์ริวกิว ภายในสวนตกแต่งไว้อย่างสวยงามแต่เรียบง่าย อาคารพระราชวังเป็นสไตล์โอกินาว่าดั้งเดิม ซึ่งใช้กระเบื้องสีแดง สวนแห่งนี้มีบริเวณกว้างขวาง มีบ่อน้ำท่ามกลางภูมิทัศน์อันรื่นรมย์ ในปี 1945 สวนชิคินาเอนได้ถูกทำลายในช่วงสงคราม และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 2000 และได้รับการขึ้นบัญชีเป็น UNESCO World Heritage ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรริวกิวในอดีต


ปราสาทชูริ(Shuri Castle) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการบริหาร และเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์มานานหลายร้อยปี จนกระทั่งกลายเป็นจังหวัดโอกินาว่าในปี 1879 ซึ่งปราสาทแห่งนี้ได้รับขึ้นบัญชีเป็น UNESCO World Heritage ปราสาทชูริดั้งเดิม สร้างขึ้นในช่วงปลายยุค 1300 มีบทบาทสำคัญในการรวมอำนาจเกาะไว้เป็นหนึ่งเดียว อาคารอันสวยงามที่มีอยู่ในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1992 รวมถึงประตูชูเรม่อน(Shureimon Gate) และเนื่องจากตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขา จึงทำให้สามารถมองเห็นวิวเหนือเมืองนาฮะที่งดงามอีกด้วย


สวนแห่งสันติภาพ(Peace Memorials Park) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ จุดท่องเที่ยวหลักคือพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสันติภาพ(Peace Memorial Museum) จัดแสดงข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับสงคราม การต่อสู้ และการบูรณะฟื้นฟูเมืองโอกินาว่า ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรทางทิศตะวันตกของสวนสันติภาพ เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ฮิเมยูริ(Himeyuri Monument) และพิพิธภัณฑ์ เพื่อระลึกถึงนักเรียนมัธยมหญิงที่ทำงานในโรงพยาบาลของกองทัพ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลง


พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ(Okinawa Churaumi Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2002 ตั้งอยู่ใน Ocean Expo Park ที่เคยจัดแสดงงานนานาชาติเอ็กซ์โปในปี 1975 ไฮไลท์ของการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้คือแท็งก์น้ำคุโรชิโอะ(Kuroshio Tank) ซึ่งเป็น 1 ในแท็งก์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งภายในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตในทะเลแถบโอกินาว่าที่หลากหลาย สัตว์น้ำที่โดดเด่นที่สุดคือฉลามวาฬยักษ์ และกระเบนราหู


หมู่บ้านมิฮามะสไตล์อเมริกัน(Mihama American Village) เป็นแหล่งความบันเทิงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภาคกลางของเกาะโอกินาว่า ภายในหมู่บ้านมีลักษณะคล้ายห้างสรรพสินค้ากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วย ร้านค้า ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหารจำหน่ายฮอตด็อกและแฮมเบอร์เกอร์ ร้านกาแฟ โรงภาพยนตร์ Mihama 7 และชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่  นอกจากนี้ห่างออกไปไม่ไกลนักเป็นชายหาดทิศตะวันตกที่เหมาะสำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ตกพร้อมปิ้งบาร์บีคิวสังสรรค์กันได้อีกด้วย


ถนนโคคุไซโดริ(Kokusaidori Street) เป็นถนนสายหลักที่ทอดยาว 2 กิโลเมตรผ่านใจกลางเมืองนาฮะ โดยเริ่มจากสถานีขนส่งนาฮะ(Naha Bus Terminal) และหอประจำจังหวัด(Prefectural Hall) สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ โรงแรม ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และห้างสรรพสินค้า


ซากปราสาทนาคิจิน(Nakijin Castle Ruins) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโมโตะบุ(Motobu Peninsula) ทางทิศเหนือของเกาะโอกินาว่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรริวกิวซึ่งเป็นมรดกโลก UNESCO ทำเลที่ตั้งของปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตป่าที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบแตกต่างจากปราสาทแห่งอื่นๆ ปัจุบันหลงเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง หมู่บ้านนาคิจิน และศูนย์วัฒนธรรมที่ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก จัดแสดงสิ่งของที่ขุดพบในบริเวณปราสาท เช่น เครื่องปั้นดินเผาจีน เหรียญ และเอกสารต่างๆ รวมถึงนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของหมู่บ้านนาคิจินอีกด้วย


ซากปราสาทซาคิมิ(Zakimi Castle Ruins) สร้างขึ้นช่วงต้นปี 1400 โดยอาณาจักรชูซัง(Chuzan Kingdom) ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเกาะโอกินาว่า ซึ่งห่างจากแหลมซัมปะ(Cape Zampa)ไปไม่ไกลนัก เมื่อเดินขึ้นไปบนซากปรักหักพังจะได้พบกับมุมมองที่สวยงามของทิวทัศน์ท่าเรือนาฮะ(Naha Port) ในระยะไกลๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในมรดกโลก UNESCO World Heritage ซึ่งรวมอยู่ในราชอาณาจักรริวกิว อีกด้วย


ซากปราสาทคัทสึเรน(Katsuren Castle Ruins) ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชันที่ใกล้กับชายฝั่งทะเล สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่าสนใจ ปัจจุบันได้ถูกขึ้นบัญชีให้เป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage site ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรริวกิว

 

 

พิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดโอกินาว่า(Okinawa Prefectural Museum) เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโอกินาว่า เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2007 โดยแบ่งออกเป็น 2 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ภายในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ จะมีข้อมูลเกี่ยวกับโอกินว่าตั้งแต่สมัยก่อนราชอาณาจักรริวกิวจนกระทั่งถึงสมัยใหม่ รวมถึงประวัติศาสตร์ธรรมชาติ นิทานพื้นบ้าน งานฝีมือ และโบราณคดี ส่วนพิพิธภัณฑ์ศิลปะ จะเป็นอาคารขนาดเล็ก ภายในจัดแสดงงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ ประติมากรรม ภาพวาด ภาพสเก็ตช์ และวีดีโอ ซึ่งคอลเลกชั่นศิลปะเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นของศิลปินท้องถิ่นนั่นเอง


สวนสนุกโอกินาว่าเวิล์ด(Okinawa World) เป็นสวนสนุกที่ตกแต่งด้วยรูปแบบวัฒนธรรมโอกินาว่าทั้งหมด โดยจุดท่องเที่ยวหลักๆ คือ ถ้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หมู่บ้านหัตถกรรม และพิพิธภัณฑ์งู


สวนสนุกริวกิวมูระ(Ryukyu Mura) เป็นสวนสนุกขนาดเล็กที่จำลองเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของอาณาจักรริวกิวในสมัยโบราณ พร้อมมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมโอกินาว่า ซึ่งประกอบด้วย อาคารแต่ละหลังที่มุงด้วยกระเบื้องสีแดง ล้อมรอบด้วยกำแพงหินที่ป้องกันพายุไต้ฝุ่น ศาลเจ้า และกลุ่มเวิร์คช้อปต่างๆที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ เช่น การปั้นเครื่องปั้นดินเผา เล่นดนตรีเครื่องสายของโอกินาว่าซันชิน(sanshin) รถไฟเหาะ และระบายสีรูปปั้นชิซะขนาดเล็ก(shisa)


แหลมเฮโดะ(Cape Hedo/Hedo Misaki) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของปลายเกาะโอกินาว่า เป็นพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยป่าไม้และภูเขา สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากหน้าผาชายฝั่งทะเล เส้นทางหลักที่ไปยังแหลมเฮโดะ คือ ถนนเลียบชายฝั่งทิศตะวันตก ครึ่งทางระหว่าง Nago กับแหลมเป็นเส้นทางเดินป่าไปยังน้ำตกฮิจิ(Hiji waterfall) และโรงแรม JAL resort รอบชายหาดโอคุมะ(Okuma Beach)


น้ำตกฮิจิ(Hiji Waterfall) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขตยัมบารุ(Yambaru)ของเกาะโอกินาว่า ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นปกคลุมด้วยป่าหนาทึบ เส้นทางที่พาไปยังน้ำตกเป็นธรรมชาติที่น่าสนใจ (เส้นทางเปิดในเดือนเมษายน ปี 2013 หลังจากได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นปี 2012) เส้นทางนี้มีระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเริ่มจากถนนสายหลักจากแนวชายฝั่งทะเลทิศตะวันตกของเกาะ จากนั้นเดินไปอีก 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที เพื่อเดินไปยังน้ำตก เส้นทางนี้ค่อนข้างสูงชัน ไฮไลท์ คือ การเดินข้ามสะพานแขวนข้ามหุบเขาสูง 17 เมตรจากพื้นดินเบื้องล่าง จากนั้นจะพบกับภาพน้ำตกที่น่าประทับใจ สูงประมาณ 26 เมตร บริเวณรอบๆมีบรรยากาศที่เงียบสงบ


สวนสาธารณะโอเชี่ยนเอ็กซ์โป(Ocean Expo Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ปลายคาบสมุทรโมโทบุ(Motobu Peninsula)ทางทิศเหนือของเกาะโอกินาว่า สร้างขึ้นในปี 1976 ภายในสวนสาธารณะมีลานจอดรถยาว 3 กิโลเมตรเลียบแนวชายฝั่งทะเลขนาดกว้างขวาง มีรถบัสเล็กรับส่งไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ 2 ครั้ง/ชั่วโมง

1.พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม (Oceanic Culture Museum) ตั้งอยู่ข้างประตูกลางของสวนสาธารณะ ภายในจัดแสดงแบบจำลองเรือ นิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆของทวีปเอเชียและแปซิฟิกใต้ แบบจำลองเรือแคนูยักษ์ที่มาจากปาปัวนิวกินี และเรือที่ใช้สำหรับเดินทางระหว่างราชอาณาจักรริวกิว(Ryukyu Kingdom) และประเทศอื่นๆในเอเชีย รวมถึงหอท้องฟ้าจำลองอีกด้วย

2.หมู่บ้านพื้นเมืองโอกินาว่า(Native Okinawa Village) หมู่บ้านกลางแจ้งขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม ประกอบด้วยอาคารและที่อยู่อาศัยในช่วงยุคต่างๆของภูมิภาคโอกินาว่ากว่า 20 หลัง สามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

3.สวนพฤกษศาสตร์(Tropical Dream Center) ภายในจัดแสดงพืชเขตร้อนที่หลากหลาย และพืชในเรือนกระจกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีหอชมวิวสูง 36 เมตร อีกด้วย

4.ชายหาด(Emerald Beach) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสวนสาธารณะ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนหันหน้าไปคนละทิศกัน ได้แก่ พื้นที่สำหรับเดินเล่น และว่ายน้ำ พื้นที่สำหรับพักผ่อน และพื้นที่สำหรับชมทิวทัศน์


แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเซฟา อูทากิ(Sefa Utaki) เป็นพื้นที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาประจำเมืองโอกินาว่า คล้ายกับศาสนาชินโตที่ให้ความสำคัญในการเคารพบูชาธรรมชาติ พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาในป่าทึบที่ตั้งขนานกับทะเล โดยได้รับการขึ้นบัญชีเป็นพื้นที่มรดกโลกประจำโอกินาว่า แม้ว่าจะเคยเป็นพื้นที่ประกอบพิธีทางจิตวิญญาณในช่วงศตวรรษที่ 16 แต่ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ได้รับการดูแลจากรัฐบาลและใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา และได้นำชื่อไปตั้งให้กับสถานที่สำคัญในปราสาทชูริอีกด้วย(Shuri Castle)


สุสานทามาอุตุน(Tamaudun Mausoleum) สร้างขึ้นต้นศตวรรษที่ 16 ใช้เป็นสถานที่ฝังศพของพระราชวงศ์ประจำราชอาณาจักรริวกิว ได้รับการบูรณะใหม่หลังจากเกิดความเสียหายเป็นอย่างมากในช่วงสงคราม และนับเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรริวกิวซึ่งเป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage อีกด้วย ภายในสุสาน แบ่งออกเป็น 3 ห้อง ได้แก่ ห้องทางซ้ายสำหรับพระศพของพระมหากษัตริย์และพระราชินี ทางขวาสำหรับเจ้าชายและเจ้าหญิง ห้องตรงกลางใช้เป็นที่จัดเก็บศพที่เพิ่งตายเพื่อนำมาทำความสะอาดก่อนทำพิธีกรรมตามประเพณี นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในชั้นใต้ดินของอาคารแผนกต้อนรับ จัดแสดงเกี่ยวกับภาพประวัติศาสตร์ต่างๆเกี่ยวกับสุสานแห่งนี้อีกด้วย(คำบรรยายภาษาอังกฤษมีเพียงเล็กน้อย)


สวนสับปะรดนาโกะ(Nago Pineapple Park) สร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมการขายสับปะรดท้องถิ่นให้ได้มากขึ้น โดยค่าใช้จ่ายในการเข้าชม รวมค่านั่งรถชมทุ่งสับปะรด ภายในสวนจำหน่ายของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผลิตจากสับปะรด เช่น ไวน์ น้ำผลไม้ เค้ก ช็อคโกแลต สับปะรดอบแห้ง และสับปะรดสด นอกจากนี้ยังสามารถชมวีธีการปอกเปลือกสับปะรถเพื่อบรรจุกระป๋องได้อีกด้วย


ย่านเครื่องปั้นดินเผาสึโบยะ(Tsuboya Pottery District) เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องปั้นดินเผามาตั้งแต่สมัยราชอาณาจักรริวกิว ซึ่งยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถชมความประณีตของเครื่องปั้นดินเผาประจำท้องถิ่นได้ที่พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาสึโบยะ(Tsuboya Pottery Museum) โดยมีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา พร้อมกับเทคนิคในการปั้นอีกด้วย

 

 







Copyright © 2012 All Rights Reserved.
 

TAT No. 11/09781
บริษัท เจแปน ไกด์ จำกัด

Japan Guide Company Limited

300 ซอยอ่อนนุช 10 ถนนสุขุมวิท แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
300 Soi Onnut 10, Sukhumvit Road, Suanluang, Suanluang, Bangkok 10250, Thailand
Tel. 02-3312856 (Auto) Fax. 02-7426912
E-mail: admin@japanguide.co.th